ข่าวฆ่าปาดคอครูสอนนักเรียนประถมที่สระบุรี

วันที่ 5 ก.ค. 59 มีรายงานว่า เวลาประมาณ 01.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แอบนำตัว นายชาตรี ร่วมสูงเนิน อายุ 27 ปี ชาว จ.สระบุรี ผู้ก่อเหตุฆ่าปาดคอ น.ส.จุฬารัตน์ โทวรรณา หรือ ครูอิ๋ว ภายในห้องพักจนเสียชีวิต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ทั้งนี้ การทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้ถูกยกเลิกไปแล้ว 2 ครั้ง เนื่องจากมีประชาชนเข้ามารอรุมประชาทันฑ์กันเป็นจำนวนมาก ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงไม่ได้บอกให้ทางประชาชนหรือสื่อมวลชนได้รับทราบ เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะได้รับอันตราย

ขณะที่ในโซเชียลมีเดีย ได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จำลองเหตุการณ์ตอนลงมือฆ่าปาดคอครูสาว โดยเจ้าหน้าที่ได้บอกให้คนร้ายสาธิตว่า เฉือนยังไง ซึ่ง นายชาตรี ได้ลงมือปิดปากใช้มีดเฉือนลงไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจ แอบนำตัว ‘มือฆ่าปาดคอครูสาว’ ทำแผน ตอนตี 1 หวั่นโดนรุมกระทืบ หลังล่มไปแล้ว 2 ครั้ง

วานนี้ (5 ก.ค. 59) มีรายงานว่า เวลาประมาณ 01.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แอบนำตัว นายชาตรี ร่วมสูงเนิน อายุ 27 ปี ชาว จ.สระบุรี ผู้ก่อเหตุฆ่าปาดคอ น.ส.จุฬารัตน์ โทวรรณา หรือ ครูอิ๋ว ภายในห้องพักจนเสียชีวิต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ทั้งนี้ การทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้ถูกยกเลิกไปแล้ว 2 ครั้ง เนื่องจากมีประชาชนเข้ามารอรุมประชาทันฑ์กันเป็นจำนวนมาก ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงไม่ได้บอกให้ทางประชาชนหรือสื่อมวลชนได้รับทราบ เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะได้รับอันตราย ขณะที่ในโซเชียลมีเดียได้มีการแชร์โพสต์คลิปวีดีโอในช่วงระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพดังกล่าวด้วย

เรือนจำเผยสั่งแยกขังมือฆ่าปาดคอครูสาว หวั่นนักโทษรายอื่นที่ทราบข่าวจะรุมทำร้าย หมดสิทธิ์ได้รับอภัยโทษ เพราะถูกจัดเป็นนักโทษชั้นเลว เนื่องจากก่อเหตุซ้ำ

นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กำกับดูแลกลุ่มภารกิจพัฒนาพฤตินิสัย ได้ออกมาเปิดเผยถึงการควบคุมตัวนายชาตรี ร่วมสูงเนิน ผู้ต้องหาคดีฆ่าปาดคอครูสาว ว่า

ทางเรือนจำจะมีการแยกขังนายชาตรี ออกจากผู้ต้องขังรายอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องขังรายอื่น ๆ ที่ทราบข่าวสะเทือนขวัญดังกล่าวรุมทำร้ายร่างกายในเรือนจำ โดยเรือนจำได้จัดให้มีนักโทษที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเหลือผู้คุม ให้เข้ามาดูแลใกล้ชิด

ส่วนการที่ประชาชนให้ความสนใจหวั่นเกรงว่านายชาตรีจะไดเรับการอภัยโทษอีกครั้งนั้น ทางนายกอบเกียรติ เผยว่าคงเป็นไปไม่ได้เพราะนายชาตรีถูกจัดเป็นนักโทษชั้นเลวแล้ว เนื่องจากเคยก่อคดีอาญาซ้ำและถูกส่งตัวเข้าเรือนจำอีกครั้ง

เจ้าหน้าที่ยุติการทำแผนฆ่าครูอิ๋ว หลังญาติ-ชาวบ้านนับพันฮือตะโกนด่า รอรุมประชาทัณฑ์

ความคืบหน้าการทำแผนรับคำสารภาพในคดีนายชาตรี ร่วมสูงเนิน ก่อเหตุสยองฆ่าเชือดคอ น.ส.จุฬารัตน์ หรือครูอิ๋ว โทวรรณา เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมานั้น ทางเจ้าหน้าที่ต้องยกเลิกการทำแผนฯ และนำตัวผู้ต้องหากลับโรงพักทันที

หลังจากถึงพื้นที่ซึ่งเป็นบ้านเช่าในเขตเทศบาลเมืองแก่งคอย จ.สระบุรีที่จะทำแผน มีญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต และชาวบ้านจำนวนมากมายืนรอดูหน้าฆาตกร พร้อมถือป้ายเรียกร้องให้ประหารชีวิตผู้ต้องหา และยังพยายามประชิดจะเข้าทำร้ายผู้ต้องหา จนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถคุมสถานการณ์และนำผู้ต้องหาไปทำแผนได้ จึงต้องระงับการทำแผนในที่สุดดังกล่าว

แถลงรวบผู้ต้องหาฆ่าปาดคอครูสาว จ.สระบุรี ด้านผู้ต้องหารับสารภาพ แอบชอบ หวังข่มขืนชิงทรัพย์ พร้อมขอโทษญาติของผู้เสียชีวิต

วันนี้ (4 ก.ค. 59) พล.ต.ท. ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงผลการจับกุม นายชาตรี ร่วมสูงเนิน อายุ 27 ปี ชาว จ.สระบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในคดีฆ่าปาดคอครูสาวเสียชีวิตในห้องพัก อ.แก่งคอย จ.สระบุรี หลังเกิดเหตุตำรวจสามารถติดตามจับกุม นายชาตรี ไว้ได้

จากการสอบสวน นายชาตรี ให้การว่า ก่อนเหตุเหตุตนดื่มเบียร์ไป 1 ขวด จึงเกิดอารมณ์ทางเพศ และได้กอดแฟนตัวเองซึ่งเป็นสาวประเภทสองและขอร่วมเพศแต่แฟนไม่ยอม จึงเดินไปห้องของผู้ตายซึ่งประตูไม่ได้ล็อก หวังจะข่มขืน แต่ขณะที่ตนเองพยายามจะข่มขืน ผู้ตายตื่นมา ตกใจ ร้องโวยวาย เลยใช้มือปิดปากผู้ตายพร้อมใช้มีดที่วางอยู่ข้าง ๆ ตัว ปาดที่คอจนแน่นิ่ง พร้อมกับทิ้งมีดไว้ในห้องที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นได้กลับห้องตนเอง อาบน้ำเพื่อล้างคราบเลือดที่ติดมากับเสื้อผ้า ก่อนนำเสื้อตัวที่ใส่ก่อเหตุมาพันมือซ้ายที่ถูกมีดบาด และกลับไปนอนกับแฟนที่ห้องพัก พอเช้าก็ไปทำงานตามปกติ

ทั้งนี้ ตนเคยนั่งพูดคุยกับผู้ตายอยู่บ้าง ซึ่งเคยรู้จักกับผู้ตายมาเมื่อประมาณ 4-5 เดือน ไม่ได้จีบ แต่ชอบ ที่เกิดเหตุนั้น เห็นประตูไม่ได้ล็อก โดยเปิดประตูไม้ทิ้งไว้ ปิดประตูเหล็กซึ่งจนไม่ได้งัดประตูเข้าไป ไม่ได้วางแผนไว้ก่อน วันที่ก่อเหตุอยากได้ทรัพย์สิน และอย่างอื่น ซึ่งการข่มขืนนั้น ตนยังกระทำการไม่เสร็จ เพราะผู้ตายดิ้นก่อน และระหว่างก่อเหตุผู้ตายได้กรี๊ดขึ้นมา ส่วนมีดนั้น อยู่ในห้องของผู้ตายเอง ไม่ได้เตรียมมา เมื่อเดินเข้าไปในห้องเดินเตะปลั๊กไฟ ผู้ตายเลยรู้สึกตัว ที่ลงมือก่อเหตุเพราะกลัวคนอื่นจะรู้ 

พร้อมกันนี้ นายชาตรี ระบุว่า รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป และอยากจะขอโทษญาติของผู้เสียชีวิตด้วย อย่างไรก็ตาม หลังแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ได้คุมตัว นายชาตรี กลับไปที่ จ.สระบุรี ส่วนจะทำแผนประกอบคำรับสารภาพหรือไม่นั่น อยู่ระหว่างพิจารณ

เผยคลิป ! ขณะทำแผน ‘มือฆ่าปาดคอครูสาว’ ตอนตี 1

วันที่ 5 ก.ค. 59 มีรายงานว่า เวลาประมาณ 01.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แอบนำตัว นายชาตรี ร่วมสูงเนิน อายุ 27 ปี ชาว จ.สระบุรี ผู้ก่อเหตุฆ่าปาดคอ น.ส.จุฬารัตน์ โทวรรณา หรือ ครูอิ๋ว ภายในห้องพักจนเสียชีวิต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ทั้งนี้ การทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้ถูกยกเลิกไปแล้ว 2 ครั้ง เนื่องจากมีประชาชนเข้ามารอรุมประชาทันฑ์กันเป็นจำนวนมาก ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงไม่ได้บอกให้ทางประชาชนหรือสื่อมวลชนได้รับทราบ เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะได้รับอันตราย

ขณะที่ในโซเชียลมีเดีย ได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จำลองเหตุการณ์ตอนลงมือฆ่าปาดคอครูสาว โดยเจ้าหน้าที่ได้บอกให้คนร้ายสาธิตว่า เฉือนยังไง ซึ่ง นายชาตรี ได้ลงมือปิดปากใช้มีดเฉือนลงไป

---

เจ้าหน้าที่ตำรวจ แอบนำตัว ‘มือฆ่าปาดคอครูสาว’ ทำแผน ตอนตี 1 หวั่นโดนรุมกระทืบ หลังล่มไปแล้ว 2 ครั้ง

วานนี้ (5 ก.ค. 59) มีรายงานว่า เวลาประมาณ 01.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แอบนำตัว นายชาตรี ร่วมสูงเนิน อายุ 27 ปี ชาว จ.สระบุรี ผู้ก่อเหตุฆ่าปาดคอ น.ส.จุฬารัตน์ โทวรรณา หรือ ครูอิ๋ว ภายในห้องพักจนเสียชีวิต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้งนี้ การทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้ถูกยกเลิกไปแล้ว 2 ครั้ง เนื่องจากมีประชาชนเข้ามารอรุมประชาทันฑ์กันเป็นจำนวนมาก ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงไม่ได้บอกให้ทางประชาชนหรือสื่อมวลชนได้รับทราบ เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะได้รับอันตราย ขณะที่ในโซเชียลมีเดียได้มีการแชร์โพสต์คลิปวีดีโอในช่วงระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพดังกล่าวด้วย

---

เรือนจำเผยสั่งแยกขังมือฆ่าปาดคอครูสาว หวั่นนักโทษรายอื่นที่ทราบข่าวจะรุมทำร้าย หมดสิทธิ์ได้รับอภัยโทษ เพราะถูกจัดเป็นนักโทษชั้นเลว เนื่องจากก่อเหตุซ้ำ

นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กำกับดูแลกลุ่มภารกิจพัฒนาพฤตินิสัย ได้ออกมาเปิดเผยถึงการควบคุมตัวนายชาตรี ร่วมสูงเนิน ผู้ต้องหาคดีฆ่าปาดคอครูสาว ว่า

ทางเรือนจำจะมีการแยกขังนายชาตรี ออกจากผู้ต้องขังรายอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องขังรายอื่น ๆ ที่ทราบข่าวสะเทือนขวัญดังกล่าวรุมทำร้ายร่างกายในเรือนจำ โดยเรือนจำได้จัดให้มีนักโทษที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเหลือผู้คุม ให้เข้ามาดูแลใกล้ชิด

ส่วนการที่ประชาชนให้ความสนใจหวั่นเกรงว่านายชาตรีจะไดเรับการอภัยโทษอีกครั้งนั้น ทางนายกอบเกียรติ เผยว่าคงเป็นไปไม่ได้เพราะนายชาตรีถูกจัดเป็นนักโทษชั้นเลวแล้ว เนื่องจากเคยก่อคดีอาญาซ้ำและถูกส่งตัวเข้าเรือนจำอีกครั้ง

---

เจ้าหน้าที่ยุติการทำแผนฆ่าครูอิ๋ว หลังญาติ-ชาวบ้านนับพันฮือตะโกนด่า รอรุมประชาทัณฑ์

ความคืบหน้าการทำแผนรับคำสารภาพในคดีนายชาตรี ร่วมสูงเนิน ก่อเหตุสยองฆ่าเชือดคอ น.ส.จุฬารัตน์ หรือครูอิ๋ว โทวรรณา เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมานั้น ทางเจ้าหน้าที่ต้องยกเลิกการทำแผนฯ และนำตัวผู้ต้องหากลับโรงพักทันที

หลังจากถึงพื้นที่ซึ่งเป็นบ้านเช่าในเขตเทศบาลเมืองแก่งคอย จ.สระบุรีที่จะทำแผน มีญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต และชาวบ้านจำนวนมากมายืนรอดูหน้าฆาตกร พร้อมถือป้ายเรียกร้องให้ประหารชีวิตผู้ต้องหา และยังพยายามประชิดจะเข้าทำร้ายผู้ต้องหา จนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถคุมสถานการณ์และนำผู้ต้องหาไปทำแผนได้ จึงต้องระงับการทำแผนในที่สุดดังกล่าว

---

แถลงรวบผู้ต้องหาฆ่าปาดคอครูสาว จ.สระบุรี ด้านผู้ต้องหารับสารภาพ แอบชอบ หวังข่มขืนชิงทรัพย์ พร้อมขอโทษญาติของผู้เสียชีวิต

วันนี้ (4 ก.ค. 59) พล.ต.ท. ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงผลการจับกุม นายชาตรี ร่วมสูงเนิน อายุ 27 ปี ชาว จ.สระบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในคดีฆ่าปาดคอครูสาวเสียชีวิตในห้องพัก อ.แก่งคอย จ.สระบุรี หลังเกิดเหตุตำรวจสามารถติดตามจับกุม นายชาตรี ไว้ได้

จากการสอบสวน นายชาตรี ให้การว่า ก่อนเหตุเหตุตนดื่มเบียร์ไป 1 ขวด จึงเกิดอารมณ์ทางเพศ และได้กอดแฟนตัวเองซึ่งเป็นสาวประเภทสองและขอร่วมเพศแต่แฟนไม่ยอม จึงเดินไปห้องของผู้ตายซึ่งประตูไม่ได้ล็อก หวังจะข่มขืน แต่ขณะที่ตนเองพยายามจะข่มขืน ผู้ตายตื่นมา ตกใจ ร้องโวยวาย เลยใช้มือปิดปากผู้ตายพร้อมใช้มีดที่วางอยู่ข้าง ๆ ตัว ปาดที่คอจนแน่นิ่ง พร้อมกับทิ้งมีดไว้ในห้องที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นได้กลับห้องตนเอง อาบน้ำเพื่อล้างคราบเลือดที่ติดมากับเสื้อผ้า ก่อนนำเสื้อตัวที่ใส่ก่อเหตุมาพันมือซ้ายที่ถูกมีดบาด และกลับไปนอนกับแฟนที่ห้องพัก พอเช้าก็ไปทำงานตามปกติ

ทั้งนี้ ตนเคยนั่งพูดคุยกับผู้ตายอยู่บ้าง ซึ่งเคยรู้จักกับผู้ตายมาเมื่อประมาณ 4-5 เดือน ไม่ได้จีบ แต่ชอบ ที่เกิดเหตุนั้น เห็นประตูไม่ได้ล็อก โดยเปิดประตูไม้ทิ้งไว้ ปิดประตูเหล็กซึ่งจนไม่ได้งัดประตูเข้าไป ไม่ได้วางแผนไว้ก่อน วันที่ก่อเหตุอยากได้ทรัพย์สิน และอย่างอื่น ซึ่งการข่มขืนนั้น ตนยังกระทำการไม่เสร็จ เพราะผู้ตายดิ้นก่อน และระหว่างก่อเหตุผู้ตายได้กรี๊ดขึ้นมา ส่วนมีดนั้น อยู่ในห้องของผู้ตายเอง ไม่ได้เตรียมมา เมื่อเดินเข้าไปในห้องเดินเตะปลั๊กไฟ ผู้ตายเลยรู้สึกตัว ที่ลงมือก่อเหตุเพราะกลัวคนอื่นจะรู้ 

พร้อมกันนี้ นายชาตรี ระบุว่า รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป และอยากจะขอโทษญาติของผู้เสียชีวิตด้วย อย่างไรก็ตาม หลังแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ได้คุมตัว นายชาตรี กลับไปที่ จ.สระบุรี ส่วนจะทำแผนประกอบคำรับสารภาพหรือไม่นั่น อยู่ระหว่างพิจารณา

---

รวบ ! หนุ่มฆ่าปาดคอครูสาว เกือบขาดดับคาห้องพัก สภาพศพกึ่งเปลือย รับแอบชอบมานาน เตรียมคุมตัวทำแผน

วันนี้ (3ก.ค.59) พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ วิเชียรสรรค์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี และ พ.ต.อ.ไพโรจน์ ตรีโสภณ ผู้กำกับการสภ.แก่งคอย อยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม นาย ชาตรี ร่วมสูงเนิน อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดสระบุรี พนักงานโรงปูนแห่งหนึ่ง หลังคุมตัวมาสอบสวนตั้งแต่เมื่อคืนนี้ พร้อมรับสารภาพว่า ก่อเหตุฆ่าปาดคอ นางสาวจุฬารัตน์ โทวรรณา ครูอัตราจ้างโรงเรียนแสงวิทยา

จากการตรวจร่างกาย นายชาตรี พบว่าที่ ด้านหลังและบริเวณหน้าอก มีรอยขีดข่วนขณะที่มือด้านซ้ายมีรอยมีดปาดยาวลึก 2 นิ้ว โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐานอื่น ๆ เพิ่มเติม จากนั้นอาจจะนำตัวไปทำแผนรับสารภาพในช่วงสายของวันนี้บริเวณที่เกิดเหตุภายในห้องเช่าในตำบลแก่งคอย

ส่วนสาเหตุทราบว่า คนร้ายแอบชอบผู้ตายมานาน เพราะหน้าตาดีและช่วงที่ผ่านมายังทราบด้วยว่า ผู้ตาย นอนในห้องและไม่ได้ล็อคประตู เนื่องจากลูกบิดเสีย จนกระทั่งวันเกิดเหตุฉวยโอกาสช่วงประมาณ 03.00-04.00 น. เข้ามาข่มขืนผู้ตาย ขณะนอนในห้องคนเดียว โดยใช้มีดจี้บังคับที่คอ แต่ผู้ตายพยามต่อสู้ จึงถูกฆ่าปาดคอ

นอกจากนี้ ยังพบประวัติคนร้ายเคย ถูกดำเนินคดีข้อหาข่มขืนในปี 2556 และต่อมาได้พ้นโทษมาปี 2558 ก่อนมาก่อเหตุอีกครั้ง ส่วนชาวกัมพูชา 2 คน ที่ถูกควบคุมตัวมาสอบสวนตั้งแต่เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวแล้ว เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ฆ่าปาดคอ ! ครูสาวเกือบขาดดับคาห้องพัก สภาพศพกึ่งเปลือย คาดหวังข่มขืน แต่ผู้ตายไม่ยอมจึงลงมือ ล่าสุดจับตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย

วันที่ 2 ก.ค. 59 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. แก่งคอย จ.สระบุรี ได้รับแจ้งมีคนถูกฆ่าปาดคอ ภายในห้องเช่า ถนนสุดบรรทัดซอย 8 เขตเทศบาลเมือง อ.แก่งคอย จึงเดินทางเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในห้องเลขที่ 17/5 พบศพ น.ส.จุฬารัตน์ โทวันนา อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.3 ต.พระธาตุ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด ถูกปาดคอหวิดขาด สภาพศพกึ่งเปลือยไม่สวมเสื้อผ้านอนหงายจมกองเลือด ข้างลำคอพบมีมีดทำครัวปลายแหลมเปื้อนเลือดยาว 1 ฟุต วางอยู่ 1 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเป็นครูอัตราจ้างสอนอยู่ที่ ร.ร.แสงวิทยา ชั้น ป.5 ใกล้กับที่เกิดเหตุ

จากการสอบถาม นายเจริญชัย คำภูเขียว อายุ 26 ปี ผู้พบศพให้การว่า น.ส.จุฬารัตน์ มีแฟนชื่อ ธเนต เป็นตำรวจอยู่ที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม นาน ๆ จะมาหาผู้ตายครั้งนึง โดยเช้าวันเกิดเหตุได้โทร.หาผู้ตายแต่ติดต่อไม่ได้ จึงโทร.มาที่มือถือคนข้าง ๆ ห้องพักให้ไปเรียกผู้ตายรับสาย เมื่อตนไปเรียกที่ห้องพักก็ไม่มีเสียงตอบ จึงเดินไปเคาะประตูเรียกไม่มีเสียงตอบเช่นเดิม เลยบิดลูกบิดประตู และพบว่า น.ส.จุฬารัตน์ ถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิต

ด้าน น.ส.ธาริณี แสนตลาด อายุ 26 ปี เพื่อนครูของผู้ตาย ให้การว่า ช่วงตี 2-3 ได้ยินเสียงผู้หญิงหวีดร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ทราบว่าดังมาจากห้องไหนร้องอยู่ 10 นาที จึงเงียบไป ตนคิดว่าสามีภรรยาทะเลาะกัน จึงไม่ได้สนใจ เพิ่งมาทราบตอนสายว่า น.ส.จุฬารัตน์ ถูกฆ่า

ทั้งนี้ผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี พักอยู่คนเดียว และมักตกเป็นเป้าสายตาของแรงงานต่างด้าวที่พักอยู่หอพักด้านหลังจุดเกิดเหตุ โดยหนุ่ม ๆ เหล่านี้มักจะแอบดูผู้ตายเวลาทำธุระส่วนตัวเป็นประจำ และตอนนี้พอจะทราบแล้วว่าคนร้ายเป็นใคร

เบื้องต้นสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะมาคนเดียว ใช้วิธีเปิดประตูเข้ามาเพราะลูกบิดประตูห้องเสีย ล็อกได้เพียงกลอนประตูลูกกรงเหล็ก คาดว่าเข้ามาหวังจะข่มขืน แต่ผู้ตายต่อสู้จนข้าวของกระจัด กระจาย ทั่วห้อง นอกจากนั้นยังพบว่า สร้อยคอทองคำ พร้อมจี้หนัก 2 สลึง และโทรศัพท์มือถือของผู้ตายหายไป ส่วนศพจะส่งไปชันสูตรหาร่องรอยการข่มขืน ที่ ร.พ.แก่งคอย เพื่อจะได้ติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมผู้ต้องสงสัยมาสอบแล้ว 1 ราย เป็นชายชาวกัมพูชาอายุ 30 ปี นอกจากนั้นจากการตรวจสอบแรงงานต่างด้าวที่อยู่หอพักด้านหลังที่เกิดเหตุพบว่า นายสุขาสาง ชาวกัมพูชาได้หายตัวไป