สามแพร่ง

แพร่งเป็นคำที่ใช้เรียกทางแยก ที่มีลักษณะเป็นทางแยก 3 ทาง ถ้าเอ่ยถึงทางสามแพร่งแล้ว ในอดีตผู้คนมักจะพูดเป็นเสียง เดียวกันว่า เป็นสิ่งไม่ดีต่างๆ นานา เป็นเรื่องราวที่มีอาถรรพ์โดยเชื่อกันว่าทางสามแพร่งนั้นเป็นที่สิงสถิตของเหล่าบรรดา สัมภเวสีต่างๆ ทั้งเทพที่เป็นเจ้านายของภูตผีปีศาจ วิญญาณของผีตายโหง ผีฆ่าตัวตาย

   
ผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่าทางสามแพร่งจะมีเจ้านายแห่งผีที่อาศัยอยู่ จะคอยปกปักรักษาคุ้มครองคนดี ไม่ให้วิญญาณร้ายมาอาละวาดได้โดยทั่วไปแล้วหลายคนมักพูดว่าบ้าน ร้านค้าหรืออาคารต่างๆที่ตรงกับทางสามแพร่งนั้นเป็นฮวงจุ้ยที่ไม่ดีเสมอ ยังก็ยังมีบ้าน ร้านค้าหรือกิจการที่เจริญรุ่งเรื่องในบริเวณทางสามแพร่งหลายแห่งที่เปิดค้าขายกันมานานเช่นกัน
     ซึ่งความเป็นจริงแล้วทางสามแพร่งนั้นเปรียบเสมือนช่องลมขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นช่องบีบให้อากาศหรือลมนั้นเข้ามาสะสมได้มากเป็นพิเศษ และส่วนถนนด้านที่มีรถยนต์วิ่งเข้าหาบ้านหรืออาคารตรงทางสามแพร่งก็จะรับพลังงานรุนแรงเป็นพิเศษอีกด้วย
     เนื่องจากรถยนต์เวลาวิ่งเข้ามาก็จะลากกระแสพลังงานมาด้วย สังเกตุได้เมื่อรถยนต์วิ่งผ่านเราใกล้ๆนั้นเราจะรู้สึกถึงแรงลมที่รถวิ่งผ่านไปโดยลมเหล่านี้ก็เป็นพลังงาน ดังนั้นบริเวณทางสามแพร่งจะได้กระแสพลังงานสะสมจากที่รถยนต์วิ่งแล้วลากเข้ามาหาตัวบ้านหรืออาคารบริเวณนั้นเป็นพิเศษ จึงสรุปได้ว่าบ้านและอาคารที่อยู่ตรงทางสามแพร่งมีโอกาสได้รับพลังงานมากและรุนแรงเป็นพิเศษ แต่ว่าการรับพลังที่มากนั้นไม่ได้แปลว่าต้องร้ายเสมอไป
ภาพบ้านที่หันหน้าบ้านเจอทางสามแพ่งซึ่งเป็นเหมือนช่องลมขนาดใหญ่ที่ให้ลมพัดพลังงานเข้าสู่บ้านได้มากหรือเป็นช่องที่รถวิ่งเข้ามาแล้วลากพลังงานเข้าสู่บ้านได้ตามลูกศรในภาพ 
 
    ทางสามแพร่งที่ร้ายนั้นไม่ได้เกิดจากการที่บ้านและอาคารเหล่านั้นรับกระแสพลังงานมากจนเกินไปเป็นพิเศษ แต่จะต้องบวกกับการที่ทำเลนั้นหันไปเจอทางสามแพร่งจากองศาทิศทางของพลังร้ายอีกด้วย เพราะทางสามแพร่งเป็นแค่ตัวบอกว่าบริเวณนั้นมีพลังงานมากเป็นพิเศษแต่หากเจอองศาทิศทางที่ร้ายด้วยนั้นก็จะแปลว่าพลังงานที่พุ่งเข้ามาจากทางสามแพร่งนั้นร้ายรุนแรงเป็นพิเศษ จึงทำให้ส่งผลร้ายกับผู้อยู่อาศัยในบ้านและอาคารบริเวณทางสามแพร่งเหล่านั้น แต่ขณะเดียวกันหากทางสามแพร่งนั้นมาจากทิศทางองศาที่มีพลังงานดีกลับกลายเป็นพลังที่รุนแรงของทางสามแพร่งนั้นช่วยกระตุ้นพลังของทิศทางที่ดีจึงส่งผลให้เกิดความเจริญรุ่งเรื่องมากเป็นพิเศษได้ ด้วยสาเหตุนี้จึงทำให้มีบ้านหรืออาคารที่อยู่ตรงทางสามแพร่งบางที่มีปัญหาต่างๆนานาแต่บางที่กลับเจริญรุ่งเรื่องได้ 

     แต่การที่ดวงดาวนั้นมีการโคจรอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ไม่มีทิศทางไหนเป็นทิศทางที่ดีอยู่ตลอดเวลาหรือเป็นทิศร้ายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งองศาทิศทางที่ดีหรือร้ายนั้นก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกประมาณ 20 ปีหรืออาจจะน้อยกว่าหรือมากกว่าขึ้นอยู่ตามกับหลักของแต่ละวิชาฮวงจุ้ย โดยทุกรอบการเปลี่ยนแปลงใหญ่นั้นจะเรียกเป็นยุคของฮวงจุ้ยซึ่งปัจจุบันอยู่ในฮวงจุ้ยยุคที่ 8 ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2547 และจะหมดยุคในปี 2567

ทางสามแพร่งหากอยู่ตรงบ้านเรือนใครแล้ว คนโบราณจะแก้ไขด้วยสิ่งเหล่านี้ เพื่อทำให้ร้ายกลายเป็นดี

1. เสือคาบดาบ เพราะเชื่อกันว่าเสือเป็นพาหนะของเซียน สามารถปราบความเป็นอัปมงคลได้

2. กระจก 8 เหลี่ยม รูปยันต์ 8 ทิศ จะสามารถกระจายสิ่งเลวร้ายให้กลายเป็นดีได้

3. กระจกแผ่นเรียบ เป็นการเพิ่มปริมาณของสิ่งนั้นให้มีมากขึ้น เช่นการนำไปติดไว้ที่มุมมั่งคั่ง เงินทองลาภผลมีทวีคูณ

4. กระจกนูน ติดขึ้นเพื่อการแก้ไข เป็นการติดเพื่อการกระจาย สิ่งที่เลวร้าย

5. กระจกเว้า เป็นการดูดซับสิ่งที่เป็นมงคล ข้อควรระวังในการติดตั้ง คือควรอยู่เหนือศีรษะ เมื่อส่องแล้วจะเห็นใบหน้าได้ชัดเจน ตู้ปลา อ่างปลา เพื่อเสริมความสดชื่น เกิดความร่มเย็น ก่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ แก้ไขความหยุดนิ่ง ความแห้งแล้ง

6. กระดิ่ง ระฆัง ช่วยในการเพิ่มพลังอันสดใส ช่วยเรียกโชคลาภเงินทอง

7. เนินดิน ภูเขาหิน หิน พีระมิด ถูกโฉลกกับทางสามแพร่งที่อยู่ในตำแหน่งทิศใต้

8. ไฟ โคมไฟ ตะเกียง

9. ต้นไม้ ต้นหญ้า ศาลานั่งเล่น

10. ลูกแก้ว คริสตัลเป็นการกระจายพลังงานที่ดีให้ไหลเวียนเข้าบ้าน ช่วยแก้จุดอับมุมทึบของบ้าน

11. ขลุ่ย พิณ แคน ทำให้ลมนั้นผันแปรเป็นเสียงดนตรี นอกจากให้เป็นแสงสว่างสำหรับบ้านที่มีคาน เพดานต่ำ ซอกตึกหรือทางเดินที่อับ แคบ และทึบ

12. วงกลมเจาะรู เป็นรูปสี่เหลี่ยม ซึ่งถูกโฉลกกับทางสามแพร่งที่อยู่บริเวณทิศเหนือ

ความคิดเห็น