วิธีแก้น้องสาวมีกลิ่น

-เรื่องกลิ่นเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับผู้หญิงทุกคน
ช่องคลอดมีกลิ่นเป็นอาการพบได้ในทุกวัย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงแต่พบได้บ่อยในช่วงวัยมีประจำเดือน หรือวัยเจริญพันธุ์ และปกติแล้ว อวัยวะเพศของเราจะไม่มีกลิ่นรุนแรงนะคะ จะมีก็แค่น้อยๆ เท่านั้น ถ้ามีกลิ่นรุนแรง ขอให้สังเกตต่อด้วยว่า…
1. มีอาการตกขาวที่มีสีเหลืองอ่อนๆ หรือมีฟองเหนียวๆ ไหม ?
2. มีอาการคันหรือเปล่า ?
3. ก่อนหน้านี้เคยมีปัญหากลิ่นรุนแรงแบบนี้หรือเปล่า?
ถ้ามีอาการตามที่กล่าวมานี้ ขอให้รู้เลยว่า “เป็นอาการผิดปกติค่ะ “ต้องรีบไปพบคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ เพราะช่องคลอดอาจ--เชื้อก็ได้นะคะ นอกจากนี้แล้ว ขอนำแนะนำวิธีดูแลรักษาส่วนนั้นของเราให้สะอาด ปราศจากกลิ่น และไม่เป็นปัญหากวนใจอีกต่อไป ไปดูพร้อมกันเลยจ้า….
วิธีป้องกันกลิ่นจากจุดซ่อนเร้นมีดังต่อไปนี้ค่ะ
1. อย่าโกน ถอน ทำสี หรือแวกซ์ขน อวัยวะเพศ 
ไม่ต้องโกนขนบริเวณอวัยวะเพศให้เกลี้ยง เกลา ย้อนวัยตอนเหมือนเป็นเด็กนะคะ เพราะขนตรงนั้นนั้นมีประโยชน์ ช่วยป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ช่องคลอด และมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ไม่ให้ออกจากช่องคลอดนั่นเองค่ะ
**ส่วนสำหรับสาวๆที่ชอบใส่สั้นเสมอหู หรือใส่ชุดว่ายน้ำ ถ้าขนบริเวณนั้นเยอะเกินไปดูรกรุงรัง ก็ควรใช้กรรไกรตัดแต่งรูปทรงนิดๆหน่อยๆ อย่าปล่อยให้โผล่แลบออกข้างนอกไปทักทายคนอื่นพอค่ะงดอาหารที่มีรสจัด ของหมักดอง 
สาวๆที่โปรดปรานของหมักดอง อาหารรสจัด มีกลิ่นฉุน เช่น กระเทียมปลาร้า ปลาเค็ม หรืออาหารทะเล ก็ต้องลดลงบ้างนะคะ เพราะในอาหารหมักดองและอาหารทะเลมีสารเคมีกระตุ้นตกขาวเกิดปฏิกิริยาอักเสบระคายเคืองในร่างกาย
3.ไม่ควรใส่กางเกงใน กระโปรงหรือเกงยีนส์รัดรูปจนเกินไป
บ้านเรายิ่งเป็นเมืองร้อน ถ้าใส่กางเกงรัด จะทำให้มีเหงื่อออก ทำให้เกิดความอับชื้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีผลวิจัยทางการแพทย์ออกมาแล้วว่า ผู้หญิงที่ใส่กางเกงยีนส์มีโอกาสติดเชื้อรามากกว่า ผู้หญิงที่ไม่ได้ใส่ถึง 3 เท่า” ดังนั้นควรสวมใส่เสื้อผ้าที่นุ่ม สวมใส่สบายๆเพื่อป้องกันความอับชื้น
 
 4.วิธีการล้างทำความสะอาดที่ถูกต้อง
  การล้างทำความสะอาดก็เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจเช่นกันนะคะ เพราะบางคนล้างไม่ถูกวิธี เช่นหลังจากที่ขับถ่ายแล้ว ล้างหรือเช็ดจากข้างหลังมาข้างหน้า ลองคิดดูสิค่ะ เช็ดเอาสิ่งสกปรก เชื้อโรคจากทวารหนักมากองวางไว้ที่ช่องคลอด แล้วก็เกิดการหมักหมม นี่ก็เป็นอีกสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ จนคุณเองดมแล้วต้องร้องยี้ รับไม่ได้กับกลิ่นของตัวเองเลยละค่ะ . สบู่เฉพาะจุดซ่อนเร้น 
สำหรับล้างของสงวนตรงส่วนนั้น เชื่อว่าหลายคนก็ใช้กันอยู่ หลายคนก็คิดว่าถ้าล้างแค่น้ำเปล่า หรือสบู่จะไปสะอาดได้ยังไง ขอบอกให้รู้ตรงนี้เลยนะคะ ว่ามันสะอาดและรักษาสมดุลจุดซ่อนเร้นของคุณได้ดีมากค่ะ แต่ใช้ได้แต่ไม่บ่อยนัก เพราะสบู่จะไปฆ่าแบคทีเรียชนิดดีที่ ช่วยรักษาส่วนนั้นของเราจนตายไปหมด อาจจะทำให้ติดเชื้อง่าย หรือมีกลิ่นรุนแรงขึ้น ทางที่ดีใช้แค่น้ำเปล่าที่สะอาดล้าง และซับให้แห้งก็เพียงพอแล้วค่ะ
6.อย่าสวนล้างช่องคลอด
การสวนล้างช่องคลอดเป็นการ ฉีดหรือพ่นน้ำเปล่า หรือยาฆ่าเชื้อ เข้าไปในช่องคลอด เพื่อหวังผลใช้ชำระทำความสะอาดช่องคลอดให้ไหลออกมาทางช่องคลอด
บางคนมักคิดว่า การสวนล้างช่องคลอดเป็นการทำให้สะอาด ช่วยลดตกขาว และอาการคัน เป็นความคิดที่ผิดค่ะ เพราะในความเป็นจริงนั้นไม่มีความจำเป็นที่ต้องสวนล้างช่องคลอดเพราะ ธรรมชาติของร่างกายช่วยขับสารเมือก/น้ำเมือก หรือมีการหลุดลอกของเยื่อบุในช่องคลอดออกมาเป็นตกขาวที่ปรกติเป็นประจำอยู่แล้ว การสวนล้างช่องคลอดจะทำให้ช่องคลอดมีภาวะเป็นด่างเกิน และอาจเสี่ยงของการเกิดช่องคลอดอักเสบด้วยนะคะ .กินยาปฏิชีวนะ
การกินยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานาน เช่น พวกยารักษาสิว ยาแก้เจ็บคอ
ยาปฏิชีวนะนี้จะไปฆ่าทำลาย แบค ทีเรีย แลคโตบาซิลลัส ที่มีหน้าที่ฆ่าเชื้อราในช่องคลอด จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
  8.แผ่นอนามัย
หากมีประจำเดือน ก็เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ทุก 2-3 ชั่วโมง ควรใส่ผ้าอนามัยเท่าที่จำเป็น ไม่ควรใส่ทุกวัน เพราะจะทำให้อับชื้น ควรใช้เฉพาะวันที่มีตกขาว หรือหลังจากวันสุดท้ายของจำเดือนแค่ 2-3 วัน ก็พอ ควรให้ช่องคลอดได้มีอากาศถ่ายเทบ้าง เพื่อป้องกันการอับชื้น ซึ่งเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ช่องคลอดมีกลิ่นได้ค่ะ  . กางเกงใน แห้ง สะอาด ไม่อับชื้น
เวลาซักกางเกงในควรซักล้างให้สะอาด เสร็จก็ต้องนำออกไปตากในที่โล่ง มีแสงแดด ไม่ควรตากในที่ร่มเพราะจะทำให้อับชื้นเป็นสาเหตุทำให้เกิดเชื้อราได้
ควรเลือกกางเกงที่เป็นผ้าฝ้าย เพราะช่วยระบายความอับชื้นได้ดี เกิดเชื้อราได้ยาก และก็ไม่ควรใส่กางเกงใน จนเก่า และขาด นะคะ เพราะหลายคนอาจจะคิดว่า “ขาด เก่าไม่เป็นไร มันอยู่ข้างในนิ ไม่มีใครรู้อยู่อยู่แล้ว “แต่คุณรู้ไม่ว่ากางเกงในเก่าเป็นแหล่งกักเก็บเชื้อโรคได้อย่างดี ฉะนั้นแล้วเมื่อกางเกงในหมดอายุไขการใช้งานก็ควรโละทิ้งเถอะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราเอง ดื่มนมเปรี้ยว หรือโยเกิร์ต
เพราะในนมเปรี้ยวและโยเกิร์ตจะมีแลคโตบาซิลัส (lactobacillus) ซึ่งสามารถช่วยระบายท้อง แก้ท้องผูก และช่วยทำความสะอาดเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะปัสสาวะ และยังป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นในช่องคลอดได้ค่ะ
 
        11.ดื่มน้ำเยอะๆ
การดื่มน้ำเปล่าเป็นการรักษาความชุ่มชื้นในร่างกาย ดังนั้นสาว ๆ ทุกคนควรดื่มน้ำเยอะ ๆ เพราะนอกจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวหนังแล้วยังช่วยให้มีผิวขาวกระจ่างใสอีกด้วยค่ะ

 12.กินผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
เพราะผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวนั้นจะมีวิตามินซีสูง ซึ่งวิตามินซีมีส่วนช่วยขับพิษในร่างกาย และรักษาระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้แบคทีเรียในร่างกายที่ก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ค่ะ
เราจะเห็นได้ว่าการดูแลรักษาทำความสะอาดของจุดซ่อนเร้นนั้น เป็นสิ่งที่เราควรต้องให้ความสำคัญดูแลใส่ใจมากเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อโรค และเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนค่ะ 


ความคิดเห็น